สิ่งที่คุณควรทำและพูดเมื่อไปเยือนสหราชอาณาจักร!

สหราชอาณาจักร (United Kingdom) ไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่มีอิทธิพลทางด้านแฟชั่นและสไตล์ ซึ่งนอกจากจะมีอิทธิพลทางด้านแฟชั่นและสไตล์แล้วยังมีอิทธิพลในการเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนมากมายอีกด้วย และก็ยังคงส่งผลมาจนถึงปัจจุบันนี้ จะไม่พูดไม่ได้เลยว่าสหราชอาณาจักรนั้นเป็นประเทศที่คุณต้องไปเยือนสักครั้ง แต่ก็จะเป็นสิ่งที่ดีหากคุณได้หลีกเลี่ยงสิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนมากมักทำผิดกัน ด้านล่างคือความแตกต่างทาง ภาษา การท่องเที่ยว และ วัฒนธรรม ที่จะช่วยให้คุณรอดพ้นจากสถานการณ์ที่น่าอายเมื่อคุณกำลังท่องเที่ยวอยู่ที่สหราชอาณาจักร

ด้านภาษา

Everyone is alright!

หลังจากที่คุณอยู่ในประเทศอังกฤษสักพัก คุณก็จะเริ่มได้ยินคนพูดกันว่า "You alright" บ้างแล้วใช่ไหม นี่เป็นสิ่งแรกที่ทำให้นักท่องเที่ยวสับสนอยู่พอสมควรในการมาเยือนประเทศนี้เป็นครั้งแรก ในประเทศอื่นนั้นการถามว่า "Are you alright?" หมายความว่า เค้ากำลังถามว่าคุณรู้สึกอย่างไร โอเคหรือไม่ และต้องการให้คุณบอกเขา แต่ในประเทศอังกฤษนั้นจะแตกต่างไป คนอังกฤษจะใช้ "You alright" วลีนี้เป็นการทักทายเวลาเจอกัน ซึ่งจะไม่ได้เป็นคำถามที่ถามว่า คุณโอเคมั้ยหรือคุณรู้สึกอย่างไร แต่จะเป็นวลีอีกวลีหนึ่งที่ชาวอังกฤษใช้แทนคำว่า "hi"  ซึ่งเมื่อมีคนพูดกับคุณว่า "you alright" คุณจะต้องตอบกลับว่า "yeah, you alright" ซึ่งวลีนี้ส่วนมากจะถูกใช้เมื่อเดินสวนกับคนอื่นและต้องการที่จะพูดคุยสั้นๆ และจบด้วยการทักทาย  

Celebrating helpfulness

ประเทศอังกฤษก็ยังขึ้นชื่อในเรื่องของความช่วยเหลือของผู้คนในประเทศและความสุภาพ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทุกๆคนคาดหวังเมื่อมาเยือนประเทศอังกฤษ เมื่อทำสิ่งที่เป็นการช่วยเหลือใครสักคน คนมักจะพูดว่า "Cheers" หรือ "Cheers mate" วลีเหล่านี้หมายถึง ขอบคุณ ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านั้นกำลังเชียร์คุณอยู่ และก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าคนนั้นเป็นเพื่อนคุณ (mate) แต่อย่างใด คำว่า "Mate" เป็นคำที่ผู้ชายในอังกฤษใช้กันเกือบทุกวัย และคำว่า "bro" จะใช้ลงท้ายวลีหรือประโยคเมื่อคุณพูดกับคนที่ผู้ชายที่อายุน้อยกว่า ซึ่งจะตรงข้ามกับความเชื่อคนทั่วๆไปว่าการถูกเรียก "mate" "bro" จะหมายถึงว่าคุณมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนหรือน้องกับคนที่เรียก ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ เพียงแต่คนอังกฤษเค้าใช้คำๆนี้กันเท่านั้นเอง  

ด้านการท่องเที่ยว

เดินชิดซ้าย

การจราจรในอังกฤษนั้นอาจจะแตกต่างจากประเทศส่วนมากของโลก แต่โชคดีที่การจราจรของประเทศอังกฤษนั้นเหมือนประเทศไทยคือรถขับซ้าย แต่ก็ระวังกันหน่อยก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้าคุณเดินข้างขวาของถนนหรือขับรถด้านขวา คุณอาจจะต้องเปลี่ยนมาเป็นเดินข้างซ้ายของถนนแทน หากคุณเดินข้างขวาของถนนอาจจะเดินชนกับคนที่เดินสวนมาเข้าได้ เพราะคนในประเทศอังกฤษเข้าก็เดินข้างซ้ายของถนนกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นสิ่งร้ายแรงมากเมื่อเทียบกับรถยนต์

ระวังโดนรถเฉี่ยว

ถึงแม้ลอนดอนจะเป็นเมืองที่แตกต่างจากเมืองอื่นในประเทศอังกฤษก็ตาม แต่คุณก็จะสัมผัสมันได้ตั้งแต่การไปเยือนเมืองนี้ครั้งแรก ซึ่งในการไปเยือนครั้งแรก เพื่อความปลอดภัยคุณจะต้องรู้สิ่งๆหนึ่ง นั่นคือ ห้ามเดินชิดขอบฟุตบาต หรือ ทางเท้า (ติดกับริมถนน) เด็ดขาด เพราะเลนที่ติดกับทางเดินข้างถนน จะเป็นเลนรถบัสของลอนดอน ซึ่งรถบัสในลอนดอนจะขับชิดฟุตบาตหรือทางเท้ามาก ซึ่งการยืนหรือเดินชิดของทางเท้า (ติดถนน) เป็นสิ่งอันตรายในลอนดอน เพราะคุณอาจจะถูกเฉี่ยวโดยรถบัสได้ ซึ่งจะปลอดภัยกว่า หากคุณเดินชิดตึกแทนที่จะชิดขอบฟุตบาต ซึ่งมันก็อาจจะยากที่จะเดินชิดขอบตึกในบางพื้นที่ในลอนดอน เพราะบางพื้นที่นั้นมีฟุตบาตที่แคบ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความปลอดภัยก็เช่นเดิม คือ คุณต้องพยายามเดินชิดซ้ายเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

 

ด้านวัฒนธรรม

Tea time!

ประเทศอังกฤษนั้นขึ้นชื่อเรื่อง ชา (Tea) และเป็นที่เล่าขานกันว่าชาวอังกฤษทิ้งช่วงเวลาตอนบ่ายไปนั่งดื่มชา และก็อาจจะฟังดูตลกและถูกมองเป็นแบบนั้น แต่จริงๆแล้วไม่จริงเลย  ช่วงเวลาอาหารเย็น หรือ Dinner time อาหารที่รับประทานช่วงบ่ายๆหรือเย็นนั้น ปกติจะถูกเรียกว่า "tea" ในบางพื้นที่ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเรื่องที่คนอังกฤษหยุดทุกอย่างเพื่อมาดื่มชานั้น ไม่เป็นความจริงเลย ฮ่าๆ

มารยาทและกฎเกณฑ์

มารยาทและความประพฤติของคนอังกฤษนั้นหาสังเกตได้จากการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าคุณจะไปไหนก็ตาม ซึ่งเป็นไปตามสัจธรรมที่มนุษย์ทุกคนจะต้องคาดหวังว่าผู้อื่นจะมีความสุภาพและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ตัวอย่างเหล่านี้พบเห็นได้ในประเทศอังกฤษ เช่น หากมีคนเดินชนกัน ทั้งสองฝ่ายจะกล่าวขอโทษทันทีหลังจากเดินชน และคุณก็อาจจะได้ยินคนพูดขอบคุณให้กับคนขับรถบัสหลังจากที่ลงจากรถบัส การทำแบบนี้เป็นการแสดงถึงความขอบคุณในการที่คนขับทำหน้าที่ที่ดี และเป็นสิ่งอันดีในการพูดคำว่า ขอบคุณ และ ขอโทษ ในทุกๆเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นที่สิ่งปกติมากสำหรับคนอังกฤษ และคนอังกฤษก็จะจริงจังในเรื่องของความอดทนและการต่อแถวมาก หากใครไม่สามารถอดทนรอหรือแซงคิว ก็จะโดนคนอังกฤษดูถูกเป็นอย่างมาก ซึ่งหมายความว่าคุณต้องแน่ใจทุกครั้งว่าคุณไม่ได้แซงใครในการต่อแถว ไม่งั้นจะถูกคนอังกฤษดูถูกเอาได้