ภูมิศาสตร์

สาธารณรัฐมอลตาประกอบด้วยเกาะต่างๆ มอลตาเป็นเกาะที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะทั้งหมด ซึ่งมีความยาว 27 กิโลเมตร รัฐเกาะถูกสร้างขึ้นจากเกาะที่อาศัยอยู่สามแห่งของมอลตา Gozo และ Comino ตลอดจนเกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของ Cominotto, Filfla, St. Paul's Island และ Fungus Rock เมืองหลวงของมอลตา วัลเลตตา ตั้งอยู่บนเกาะมอลตา มอลตานับเป็นหนึ่งใน microstates ของโลกอย่างเป็นทางการ โดยครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 316 ตารางกิโลเมตร

ความต่างของเวลา

เวลาที่ประเทมอลตาเป็นหนึ่งในคาบเวลา Middle European หรือ 'MET' ซึ่งเวลาจะช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง

สภาพอากาศและฤดูการท่องเที่ยว

อุณหภูมิเฉลี่ยรายปีในมอลตาอยู่ที่ประมาณ 18.7 องศาเซลเซียส เนื่องจากอุณหภูมิจะกระจายทั่วทั้งปี ฤดูร้อนอาจมีอากาศร้อนและอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียสคาดว่าจะอยู่ในช่วงฤดูร้อน ผู้ที่ชื่นชอบแสงอาทิตย์จะรักช่วงเวลานี้ของปี และกีฬาทางน้ำก็อยู่ในช่วงนี้เช่นกัน! ดังนั้นคุณจึงต้องการที่จะต้องเตรียมเสื้อผ้าที่บางและชุดว่ายน้ำ! ถึงแม้อุณหภูมิที่ไม่ค่อยลดลงในตอนเย็น แต่ขอแนะนำให้พกแจ็คเก็ตหรือจัมเปอร์ไปกับคุณด้วย แต่คุณก็อาจจะพบกับฝนตกหนักบางช่วงสั้นๆได้ตลอดทั้งทุกฤดูเพราะมอลตาติดอยู่กับคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่เห็นได้ชัด จะเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ซึงความอบอุ่นก็จะยังมีให้คุณได้สัมผัสตามได้นานเท่าที่ดวงอาทิตย์ส่องแสง ในช่วงรุ่งเช้าสายลมจากมหาสมุทรสามารถลดอุณหภูมิได้อย่างเห็นได้ชัด ถ้าคุณชอบว่ายน้ำในมหาสมุทร คุณจะยังว่ายน้ำในเทละได้จนถึงช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายน เพราะจะยังคงอบอุ่นและมีแดดเพีงพอพอที่ทีจะให้ความอบอุ่นที่แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

เกณฑ์ความต้องการเข้าประเทศ Malta

พลเมืองชาวยุโรปไม่จำเป็นต้องมีวีซ่าเพื่อที่จะเข้าสู่มอลตาเนื่องจากเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปเอง ผู้ที่ไม่ได้เป็นพลเมืองของสหภาพยุโรปจำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตมอลตาในท้องถิ่นของตน โปรดติดต่อสถานทูตมอลตาเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆที่คุณอาจต้องปฏิบัติตาม คุณวางแผนที่จะเข้าพักในมอลตานานกว่า 90 วัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้นำหนังสือเดินทาง หรือบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไปด้วยเมื่อคุณไปที่สถานทูต และเมื่อคุณเริ่มเดินทาง โปรดทราบว่าบัตรประจำตัวประชาชนและหนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าครึ่งปีนับจากวันที่ท่านเดินทางมาจากมอลตา ผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีต้องมีบัตรประจำตัวเด็กที่มีรูปถ่ายวันที่หรืออาจมีรายการของตัวเองอยู่ในหนังสือเดินทางของบิดามารดา ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและความปลอดภัยสามารถหาได้จากกระทรวงต่างประเทศ มอลตาเป็นสมาชิกของข้อตกลงเชงเก้นตั้งแต่ปีพ. ศ. 2550 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ไม่มีการการควบคุมชายแดนที่สนามบินนานาชาติมอลตา นี่คือเหตุผลที่นักท่องเที่ยวที่มีวีซ่าเชงเก้น ไม่จำเป็นต้องมีวีซ่าภาษามอลตาเพื่อใช้ในการเดินทางเข้ามอลตา

สกุลเงิน

สกุลเงิน 'Lira มอลตา' ถูกแทนที่ด้วยสกุลเงินยูโรในปีพ. ศ. 2551 ยูโรมอลตายังให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของมอลตาในด้านหลังของเหรียญและธนบัตร ตัวอย่างหนึ่งของภาพดังกล่าวคือแท่นบูชาของวัดหินซึ่งสามารถมองเห็นได้ที่ด้านหลังของเหรียญทองแดง เหรียญทองคำขาวถือแขนเสื้อชาวมอลตาไว้ ด้านหลังเหรียญ 1 และ 2 เหรียญยูโรถือครอสต์เซนต์จอร์จไว้

สาธารณสุข

ไม่มีกฎหมายมอลตาที่จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศ ในกรณีที่คุณจำเป็นต้องได้รับการรักษาของโรงพยาบาลหรือแพทย์ในขณะที่อยู่ในมอลตา คุณอาจต้องการพิจารณาการการประกันสุขภาพการเดินทางที่ครอบคลุมคุณตลอดระยะเวลาการเดินทางของคุณ และสามารถใช้งานได้ในต่างประเทศ คุณสามารถสมัครประกันได้กับบริษัทประกันสุขภาพของคุณ หรือคุณสามารถสมัครบัตรประกันสุขภาพยุโรป (EHIC) ก็ได้เช่นกัน น้ำประปาในมอลตาไม่เหมาะสำหรับการดื่ม เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีน้ำใต้ดินในมอลตา น้ำที่มีอยู่มักจะถูกชะล้างและอาจเป็นส่วนหนึ่งของคลอรีนน้ำจากมหาสมุทร แต่อย่างไรก็ตามน้ำประปามีความปลอดภัยในการใช้แปรงฟันและทำอาหารได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดเนื่องจากร่างกายไม่ชินกับสภาพอุณหภูมิสูง คู่มือการเดินทางมอลตาของคุณแนะนำให้: เก็บน้ำดื่มไว้กับคุณเสมอและดื่มมาก ๆ! รังสีดวงอาทิตย์ยังสามารถมีผลกระทบมากกับผิวของคุณ มันจึงเป็นตัวเลือกที่จะต้องพกครีมกันแดดแบบแรงไปด้วย หากคุณใช้เวลานานกลางแจ้งควรสวมหมวกเพื่อป้องกันแดด โปรดอ่านคำแนะนำในการดูแลทางการแพทย์ในเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ

เช็คลิสต์สำหรับการเตรียมกระเป๋าเดินทาง

อ่านเช็คลิสต์ในการเตรียมตัวสำหรับจัดกระเป๋าเดินทางได้ ที่นี่

ศาสนา

ประชากรส่วนใหญ่ของมอลตาเป็นคริสเตียน ซึ่งกว่า 88.6% เป็นชาวโรมันคาทอลิก คุณไม่ควรพลาดที่จะพลาดอิทธิพลของชาวคริสเตียน ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั้วทั่งเกาะ สาธารณรัฐขนาดเล็กมีโบสถ์มากกว่า 365 แห่ง คริสตจักรคาทอลิกเป็นส่วนหนึ่งของสังฆมณฑลของมอลตาและ Gozo ส่วนที่เหลือของประชากรประกอบด้วยโปรเตสแตนต์ (บางส่วนเป็นสมาชิกของโบสถ์แบบติสม์) คริสเตียนออร์โธดอกซ์ชาวยิวและชาวมุสลิม

การเมือง

Marie-Louise Coleiro Preca หนึ่งในสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตย "Partit Laburista" เป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐมอลตาตั้งแต่เดือนเมษายน 2014 สภาผู้แทนราษฎรของสาธารณรัฐมีสมาชิกสภาคองเกรสจำนวน 65 คน ระยะเวลาของรัฐบาลมอลตาตามกฏหมายคือ 5 ปี สาธารณรัฐมอลตาเกาะเข้าร่วมสหภาพยุโรปเมื่อปี 2547 และได้กลายเป็นประเทศสมาชิกที่เล็กที่สุดของสหภาพยุโรป

ภาษาพื้นเมืองและการสื่อสาร

ภาษามอลตายังสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นและซับซ้อนของสาธารณรัฐ ภาษาราชการหลักของเกาะแห่งนี้คือภาษามอลตา ภาษามอลตาเป็นภาษาเซมิติก ที่เกิดจากภาษาอาหรับยุคกลางและได้พัฒนาเป็นภาษาที่เรารู้จักในปัจจุบัน แม้ว่าภาษามอลตาเดิมถูกสร้างขึ้นด้วยอิทธิพลหนักจากภาษาอาหรับ แต่ก็รวมองค์ประกอบของภาษาอิตาลีฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษไว้ด้วย ภาษาที่สองของมอลตาตอนนี้เป็นภาษาอังกฤษและภาษาอิตาลี การใช้องค์ประกอบภาษาอิตาเลียนกำลังถดถอยลง ในปี 1934 ภาษาอิตาลีเป็นภาษาราชการที่ใช้ในศาล ตลอดจนเป็นภาษาที่นิยมใช้ในสถาบันการศึกษา และในส่วนของการเขียน ชาวมอลต้าเกือบทั้งหมดสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วเนื่องจากเคยเป็นเมืองขึ้นของประเทษอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงศตวรรษที่ 20

การขนส่งสาธารณะ

รถบัสประจำทาง - วิธีที่ง่ายที่สุดในการเดินทางในมอลตา คือ โดยรถประจำทาง รถโดยสารประจำทางเชื่อมต่อทั่วเกาะ และแม้ว่ารถเมล์จะค่อนข้างเก่า แต่ราคาถูกมากและคุ้มต่อการใช้รถบัส นอกจากนี้ยังมีป้ายรถบัส 2 แห่ง ใกล้โรงเรียนของเรา ที่โรงเรียนสป๊าคคาเฟ่ใน St. Julian's คุณสามารถดูรายละเอียดข้อมูล ของเส้นทางการเดินรถได้ที่สถานีรถบัส และ จุดเชื่อมต่อของสถานีขนส่งของเมือง Valletta หรือที่อ่าว Saint Paul's ที่ Terminus เรือข้ามฟาก - นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เรือข้ามฟากที่เดินทางไปและกลับจากมอลตาและ Gozo ซึ่งอยู่ใกล้เคียง ราคาสำหรับการเดินทางจากเกาะหลักของมอลตาไปยัง Gozo ประมาณ 4 ยูโร แท็กซี่ - มีรถแท็กซี่ 3 ประเภทที่มอลตา ได้แก่ แท็กซี่สีขาว แท็กซี่สีดำ และแท็กซี่สีแดง

• แท็กซี่สีขาว สำหรับรับคุณโดยตรงจากถนนเมื่อคุณเรียก
• แท็กซี่สีดำ จะต้องมีการโทรเรียกและจองล่วงหน้าก่อนเพื่อที่จะให้แท็กซี่ไปรับ
• แท็กซี่สีแดง สำหรับรับผู้โดยสารสูงสุด 8 คน และ มักจะมีเฉพาะช่วงกลางคืน

ประวัติศาสตร์

มอลตาได้เผชิญกับการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งมีอิทธิพลมาจากทั้งในอดีตและยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน มนุษย์คนแรกที่ไปถึงเกาะในช่วง 5200 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งแต่เวลานั้นเกือบทุกมหาอำนาจในน่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้พยายามที่จะเข้ายึดเกาะแห่งนี้ กองกำลังรบหลายแห่งต่อสู้กันเพื่อแก่งแย่งว่าควรจะเป็นผู้มีชัยเหนือแผ่นดินผืนนี้ และการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสงครามนี้ เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมอลตาเป็นฐานของเหล่าพันธมิตร จึงถูกตีตราเป็นเป้าหมายโดยเยอรมนีและอิตาลีในช่วงสงคราม วัฒนธรรมมอลตาได้รับอิทธิพลจาจักรวรรดิขนาดใหญ่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียนตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งจักรวรรดิเหล่านี้คือ Kathargers, ชาวโรมัน, จักรวรรดิไบแซนไทน์ และจักรวรรดิอาหรับ ซึ่งหมู่เกาะรอบๆมอลตาเหล่านี้เป็นของเหล่าจักรวรรดินี้ตั้งแต่ในช่วงสมัยโบราณและยุคกลาง ชาวเกาะนี้ยังได้รับอิทธิพลจากความเชื่อของโรมันคาทอลิกอันมีต้นกำเนิดมาจากทางตอนใต้ของอิตาลี ภาษาของชาวมอลตาจึงมีความเชื่อมโยงกับภาษาอาหรับ มอลตาสร้างรัฐบาลอิสระเป็นของตัวเองครั้งแรกในปี ค.ศ. 1530 ซึ่งนำโดยจักรพรรดิมอลตา แต่ก็ต้องถูกเปลี่ยนอีกครั้งในปี ค.ศ. 1814 เมื่อมอลตากลายตกเป็นหนึ่งในอาณานิคมของอังกฤษ ช่วงเวลาที่เกาะนี้เป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร ก็ได้ทิ้งร่องรอยไว้อย่างชัดเจนบนเกาะมอลตา จนถึงวันนี้ภาษาทางการของเกาะคือภาษาอังกฤษ และคุณยังสามารถหาบูธโทรศัพท์สีแดงๆ ได้เช่นกัน ธงชาติมอลตายังได้รับอิทธิพลจากอังกฤษ มอลตาทำหน้าที่เสมือนเป็น "Unsinkable Aircraft Carrier" ของสหราชอาณาจักรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ราชาของประเทศอังกฤษได้พระราชทานรางวัลให้แก่ประเทศมอลตาในปี ค. ศ. 1942 โดยมอบรางวัลให้กับนักบุญจอร์จครอส ในฐานะที่สนับสนุนอังกฤษในช่วงสงคราม สัญลักษณ์นี้สามารถพบได้ในธงของชาวมอลตาและยังคงเป็นที่ประจักษ์ไว้จนถึงทุกวันนี้ และเมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1964 มอลตาได้รับการประกาศอิสรภาพจากประเทศอังกฤษ

สิ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะพลาด

เช่นเดียวกับในเมืองใหญ่ๆที่อื่น คุณควรดูแลกระเป๋าและสัมภาระให้ปลอดภัยเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปเยี่ยม Valletta และ Silema คุณอาจจะนักล้วงกระเป๋าได้ทุกๆที่ ดังนั้นคุณจึงระวังสิ่งของหรือสัมภาระขหาองคุณอยู่ตลอดเวลา และอย่าใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง หรือกระเป๋าถือที่คุณไม่สามารถจับตาดูได้ คุณอาจจะต้องการครีมกันแดดของคุณตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่คุ้นชินกับการการอยู่กลางแจ้งและโดนแดดนานๆ ซึ่งอุณหภูมิสูงจะสูงจนถึงเดือนกันยายน แดดจะออกส่วนมากตลอดทั้งปีในมอลตา ฉะนั้นคุณอาจจะผิวไหม้โดยไม่ทันระวังได้ โปรดทราบว่าแสงแดดไม่ได้เป็นอันตรายต่อผิวของคุณเพียงอย่างเดียวที่มอลตาในเวลาที่คุณอยู่นอกอาคารเป็นระยะเวลานาน และยุงยังสามารถพบมากตลอดเวลาในมอลตา ซึ่งหมายความว่าคุณจะพกยากันยุงหรือครีมทากันยุงไปด้วยเช่นกัน

คำแนะนำ

คุณภาพชีวิตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวมอลตา ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างกว้างขวางในการปิดร้านค้าทั้งหมดในช่วงเที่ยงวัน เพื่อให้ทุกคนสามารถงีบได้วันละครั้ง ฉะนั้นคำแนะนำเล็กน้อยจากคู่มือเดินทางของคุณ: ร้านค้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวมักจะยังคงเปิดให้บริการในช่วงเที่ยง เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้คนในมอลตาชอบเฉลิมฉลองบ่อยมาก ส่วนใหญ่ของเทศกาลเป็นเทศกาลเกี่ยวกับศาสนา เพราะว่าส่วนใหญ่ของชาวเกาะเป็นคาทอลิก งานเทศกาลแบบดั้งเดิมทั้งหมดถูกอุทิศให้แก่นักบุญ เหล่านี้มักจะมีการเฉลิมฉลองด้วยขบวนพาเหรดและเพลงมากมายบนท้องถนน อารมณ์ผ่อนคลายและมีบรรยากาศทั่วไปๆ คนในมอลตามักชอบไปร้านอาหารและบาร์กับครอบครัว ในฐานะที่เป็นคนพวกเขาเป็นคนที่เปิดกว้างและเป็นมิตร ทำให้ง่ายต่อการพบปะผู้คนใหม่ ๆ และรู้จักเพื่อนใหม่ เซนต์จูเลียนมักถูกมองว่าเป็นหัวใจของมอลตา เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับออกไปพบปะผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก วิทยาเขตมอลตาของเราอยู่ไม่ไกลจากย่าน Paceville ย่านนี้จะเต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์ ไม่ว่าคุณจะต้องการดื่มไวน์สักแก้วหนึ่งในรูปแบบของ Caipirinha ที่นี่ก็มีทุกอย่างพร้อมสำหรับทุกคน!

สถานที่เที่ยวที่ Malta

เราได้เลือกวิดีโอสำหรับไกด์นำเที่ยวมให้คุณได้ชม เพื่อให้คุณได้เห็นภาพอันน่าประทับใจของเกาะเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงามได้ง่ายมากขึ้น วิดีโอนี้มีข้อมูลสรุปที่สมบูรณ์แบบ ของสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ที่คุณไม่ควรพลาดในระหว่างการเดินทางไปมอลตา!

อ่านไกด์นำเที่ยวอื่นๆได้ที่นี่

UK travel guide | Malta travel guide | Canada travel guide | USA travel guide